จากที่เรียน จบการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว
แต่ละคนก็ต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อแต่ละคณะและมหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากไปศึกษาแต่ละคนก็ต้องจากไกลจากต่างแดนต่างถิ่นของ ตัวเองที่อยากไปศึกษาต่อ
และแน่นอนที่จะต้องพบปะกับเพื่อนต่างถิ่น อยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัย
มันก็จะแตกต่างจากโรงเรียนบ้าง แต่ยังไงๆก็คงต้องเดินต่อไป
ตัวของดีฉันเองตอนแรกไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายเพราะมันไกลจากบ้านมากและพ่อแม่ก็ไม่อยากให้มา
แต่พออธิบายให้ท่านก็ไม่ว่าอะไร ก่อนที่ดิฉันตัดสินใจมาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
ดิฉันได้ลงเรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาอาชีวะอนามัยและความปลอดภัย
แต่พอคิดไปคิดมาคณะนี้สาขานี้มันยิ่ง จะทำให้ฉันเครียดไปใหญ่เลย
เพราะดิฉันรู้ว่าว่าการเรียนวิทย์มันยากมากพอสมควรจากประสบการณ์ที่จบสายวิทย์มาจากเดิม
ดิฉันเลยเปลี่ยนเป็นเรียนนิเทศศาสตร์ สาขาการสื่อสารสื่อใหม่และมัลติมีเดีย
จากที่รู้ๆกันอยู่ว่าทำไมชื่อของดิฉันอยู่เป็นคนสุดท้ายของห้องนิเทศาสตร์ สื่อใหม่
เพราะว่าดิฉันมาเปลี่ยนคณะตอนจ่ายค่าเทอม ดิฉันเป็นเด็กซิ่วค่ะ ซิ่วมาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ภาคพายัพ เชียงใหม่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาสาเหตุที่ซิ่วคือคณะนี้เป็นคณะที่
ดิฉันกดดันมาก อย่างแรกเป็นผู้หญิงคนเดียวในห้อง
สองรับน้องโหดแต่ก็ผ่านการรับน้องแล้ว สามค่าเทอมแพง คือทางบ้านค่อนข้างยากจน
พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ เหตุผลที่ซิ่วก็ มีแค่นี้ค่ะ การรับน้องที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
โดยเฉพาะคณะนิเทศศาสตร์ เป็นการรับน้องที่สนุกสนานมาก แต่มันก็ดีไปอีกแบบ
เพราะทำให้ดิฉันได้เจอเพื่อนหลายคน ที่เข้ามาเรียนคณะนี้หรอเพื่อนต่างคณะได้รู้ว่านิสัยแต่ละคนเป็นยังไง
เพื่อนๆพี่ๆสื่อใหม่น่ารักทุกคนค่ะ ดิฉันคิดไม่ผิดเลยที่ดิฉันมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
แม้มันจะไกลจากบ้าน แต่มันก็ทำให้ดิฉันรู้ว่าแท้เป็นยังไง
และได้รู้ถึงรุ่นพี่แต่ละคนที่ทำให้พวกน้องๆมีความสุขสนุกสนาน
ดิฉันรู้ค่ะว่าพี่ๆเค้ามีความตั้งใจมาก เพื่อให้พวกดิฉันมีความรัก มีความกล้าแสดงออก
มีความสนุกสนานต่อกัน
ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนคณะอะไร
มันก็ยากไปด้วยกันหมด เฉพาะนั้นก็ควรจะตั้งใจเรียน และพายายามไม่ขาดเรียนถ้าไม่จำเป็น
เพราะการขาดเรียนไม่เข้าเรียนมันอาจส่งผลก่อให้เราไม่ถึงจุดมุ่งหมายที่เราฝันไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น